[ รายละเอียด ] พระกริ่งโสฬส มปร. ปี15 วัดราชประดิษฐ์ กทม. ของดีราคาถูกที่น่าบูชา พระกริ่งดี พิธียิ่งใหญ่ แต่ขาดการประชาสัมพันธ์ประชาชนจึงไม่ทราบ ทำให้ผู้คนต้องจ่ายเงินเกินความเป็นจริง และหลงเช่าพระเครื่องแบบตามน้ำ... พระกริ่ง มปร วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมารามราชวรวิหารปี 2515 ชื่อเดิมคือ “วัดราชประดิษฐ์สถิตธรรมยุติการาม” เรียกสั้นๆว่าวัดราชประดิษฐ์ฯ เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 4 และเป็นพระอารามแห่งแรกของคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุติ ซึ่งรัชกาลที่4 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น ภายในวัดมีศิลปะในยุครัตนโกสินทร์งดงามตระการตาให้ชมมากมาย มีจิตรกรรมฝาผนังภาพการชมสุริยุปราคาในสมัยรัชกาลที่4 และเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธสิหิงค์ด้วยเมื่อสร้างวัดราชประดิษฐ์ ฯ เสร็จเมื่อปี พ.ศ.2408 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ได้โปรดเกล้าฯ ให้อาราธนาพระสาสนโสภณ จากวัดบวรนิเวศฯ มาครองวัดราชประดิษฐ์ฯ เป็นเจ้าอาวาสองค์แรก ซึ่งต่อมาภายหลังในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ได้ทรงดำรงตำแหน่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 9 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม เมื่อปีพ.ศ.2436 ถึงปีพ.ศ.2442 รวม 6 พรรษา ประวัติของสมเด็จพระสังฆราช(สา ปุสฺสเทโว) เมื่อย้อนไปเมื่อพระชนมายุได้ 18 ปี ทรงแปลพระปริยัติธรรม 9 ประโยค ได้เป็นเปรียญเอกตั้งแต่ยังทรงเป็นสามเณร นับเป็นสามเณรองค์แรกที่ได้เป็นเปรียญ 9 ประโยคในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ต่อมาได้ลาสิกขาไปเป็นฆราวาสอยู่พักหนึ่ง และเมื่อพระชนมายุได้ 38 ปี ได้กลับมาอุปสมบทใหม่ ว่ากันว่า ได้ทรงเข้าแปลพระปริยัติธรรมอีกครั้งหนึ่ง และทรงแปลได้หมดทั้ง 9 ประโยค จึงมีผู้กล่าวถึงพระองค์ด้วยสมญานามว่า "สังฆราช 18 ประโยค"(โสฬส) ในปีพ.ศ.2515 เพื่อเป็นที่ระลึกแก่ศิษย์ยานุศิษย์ในการฉลองวัดครบรอบ 108 ปี ทางวัดได้จัดสร้างวัตถุมงคล พระกริ่งโสฬส, เหรียญพระนิรันตรายแบบพัดยศและแบบเสมา ได้มีการจัดพุทธาภิเษก ในพระอุโบสถวัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมารามเป็นเวลา 9 วัน 9 คืน พระกริ่งโสฬสเป็นพระกริ่งที่ฉีดชักกริ่งในตัว เนื้อทองเหลือง และรมดำ (บางองค์ก็ไม่มีเสียงกริ่ง) ชนวนที่นำมาหลอมฉีดพระกริ่ง และเหรียญ ได้นำมาจากคณาจารย์ ชื่อดังทั่วทั้ง ๔ ภาคของประเทศไทย ในการหลอมยันต์ในครั้งนี้ใช้เวลาในการหลอมเป็นเวลานานมาก เพราะยันต์ของคณาจารย์บางท่านกว่าจะหลอมละลายได้ ต้องใช้เวลานานพอสมควร ตามธรรมดาแล้ว แผ่นทองเหลือง, แผ่นทองแดง เมื่อใส่ลงในเบ้าหลอมแล้วก็จะละลายโดยง่ายดาย แต่ยันต์ที่นำมาหลอมทำพระกริ่ง และเหรียญพระนิรันตรายนั้นหลอมละลายได้ยากมาก รูปแบบของพระกริ่งโสฬส เป็นพระกริ่งฉีดวรรณะ เนื้อทองเหลืองรมดำ ถอดแบบมาจากพระกริ่งสายวัดสุทัศน์ ด้านหลังมีพระนามย่อของรัชกาลที่ 4 มปร. เนื้อเหลืองกะหลั่ยทอง แจกกรรมการ สร้าง 3000องค์ ทองแดงรมดำ จำนวนสร้าง 50,000 องค์ ตั้งแต่วันที่ 16-24 พฤศจิกายน 2515 โดยได้นำชนวนมาจาก การเททองหล่อพระนิรันตรายรุ่นแรก ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จเททองในการครั้งนี้สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ได้เมตตามาเป็นประธานในการจุดเทียนชัย และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระสุหร่ายวัตถุมงคล รวมพระเกจิ 108 รูป อาทิ
1...พระราชสุทธาจารย์ (หลวงพ่อโชติ ระลึกชาติ) เป็นประธาน
2...หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ
3..หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่
4...หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงฆ์บุรี
5…หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม
6…หลวงพ่อหลิว วัดไร่แตงทอง จ.นครปฐม
7… หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี จ.สมุทรสาคร
8..หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช จ.อยุธยา
9…หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า จ.ระยอง
10… หลวงพ่อรวย วัดตะโก จ.อยุธยา
11…หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดไทรน้อย จ.นนทบุรี 12… หลวงปู่ดู่ วัดสะแก จ.อยุธยา 13..หลวงปู่ศรีจันทร์ วัดเลยหลง จ.เลย 14.. พระอาจารย์วัน อุตฺตโม วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม, จ.สกลนคร
15…หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่, จ.ระยอง 16…หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล, จ.อุดรธานี 17… หลวงปู่เทสก์ วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย 18…หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ จ.สุพรรณบุรี 19..หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ จ.สุพรรณบุรี 20..หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง จนนทบุรี 21..หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ฯลฯ (ปกติแล้วหลวงปู่ทิมจะไม่ออกจากวัดละหารไร่ไปร่วมพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลที่อื่น ๆ โดยเด็ดขาด จึงนับว่าพิธีในครั้งนี้เป็นกรณีที่พิเศษจริง ๆ โดยมีภาพถ่ายยืนยัน) นอกจากนี้ยังมีพระคณาจารย์สายวิปัสสนาทั้ง ๔ ภาคร่วมนั่งอธิษฐานจิตปลุกเสกเป็นเวลา ๙ วัน ๙ คืน นับว่าเป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่ที่หาได้ไม่ง่ายนักในสมัย ๓๕ ปีที่ผ่านมา (พระคณาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกส่วนมากจะมรณภาพเกือบทุกรูปแล้ว) รูปแบบของพระกริ่งนั้น ด้านหน้าเป็นฐานกลีบบัว ด้านหลังประดิษฐานพระปรมาภิไธยย่อ “ม.ป.ร” รูปแบบเหรียญพระนิรันตรายแบบเสมาด้านหน้าเป็นรูปพระนิรัตราย ด้านหลังมีตราประจำวัด (ตราพระราชลัญจกรของรัชกาลที่ ๔) และประดิษฐานพระปรมาภิไธยย่อ “ม.ป.ร” ซึ่งเป็นพระนามย่อของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ ๔ กล่าวได้ว่าพระกริ่งโสรสรุ่นนี้เป็นสิ่งล้ำค่าหาได้ยาก ผู้ใดมีไว้บูชาจะเป็นศิริมงคลอย่างยิ่ง หลวงปู่โต๊ะฯ ท่านได้เคยกล่าวกับลูกศิษย์ใกล้ชิดว่า พระกริ่งรุ่นนี้ดีมาก ใช้แทนวัดสุทัศน์ พ.ศ.ลึกๆ ได้เลย ..ฯลฯ... |