[ รายละเอียด ] พระปิดตาวัดแหลมทราย โดย...พ่อท่านเส้ง หรือ(พระราชรัตนโมลี) อดีตเจ้าอาวาสวัดแหลมทรายและเจ้าคณะจังหวัดสงขลา พ่อท่านเส้งท่านเป็นคนจีน แต่มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา และเลื่อมใสในรสพระธรรม...ท่านจึงบวชมาตลอด มีความรอบรู้ในพระปริยัติธรรมอย่างแตกฉาน อีกทั้งชำนาญในด้านวิปัสสนากรรมฐานอย่างลึกซึ้ง นอกจากนี้ท่านยังมีความช่ำชองในวิทยาคมอย่างเอกอุด้วย...โดยท่านเริ่มสนใจศึกษาทางวิทยาคมมาตั้งแต่ตอนบวชใหม่ๆ กล่าวไปแล้วพ่อท่านเส้งท่านก็เรียนวิทยาคมสืบสายมาจากสำนัก เขาอ้อ อันเป็นสำนักทางพระพุทธาคมและไสยศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของภาคใต้เช่นกัน...แม้จะมีคุณวิเศษในตัวแต่พ่อท่านเส้งท่านก็ไม่แสดงโอ้อวด กลับวางตัวถ่อมตนเพื่อให้สมกับเพศสมณะ ใครมีเรื่องเดือดร้อนอะไรเมื่อบากหน้าไปหาท่านก็จะได้รับการสงเคราะห์เหมือนกันหมด...แม้ท่านจะมีตำแหน่งเป็นถึงเจ้าคณะจังหวัดแต่....วัตรปฏิบัติของท่านกลับเรียบง่ายเหมือนพระสงฆ์ทั่วๆ ไป ซึ่งจะหาพระสงฆ์ทีมีสมณศักดิ์ชั้นสูงที่เพียบพร้อมไปด้วยศีลาจารวัตรและวิทยาคมไปพร้อมๆกันนั้นหายาก...สำหรับคุณวิเศษของพ่อท่านเส้งได้ปรากฏเป็นที่ประจักษ์แก่ชาวบ้านกันมากมายก็เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สมัยนั้น จ.สงขลา ถือว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญอีกจุดหนึ่งและมีทหารญี่ปุ่นตั้งค่ายอยู่ด้วย จึงตกเป็นเป้าหมายการทิ้งระเบิดของเครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตร ครั้งนั้นเมื่อมีเครื่องบินของฝ่ายสัมพันธมิตรมาทิ้งระเบิดครั้งใด ชาวบ้านที่อยู่ในตัวเมืองก็จะอพยพไปหลบภัยยังที่ต่างๆ กัน....และที่วัดแหลมทรายก็มีชาวบ้านไปหลบภัยกันมาก นับเป็นเรื่องที่แปลกวัดแหลมทรายก็อยู่ไม่ไกลจากจุดที่เครื่องบินทิ้งระเบิด แต่กลับไม่มีลูกระเบิดตกเข้ามาใจอาณาเขตบริเวณของวัดเลย..
สำหรับมูลเหตุของการสร้างพระปิดตาวัดแหลมทราย "รุ่นแรก " ก็เนื่องมาจากว่าตอนนั้นสถานการณ์ชายแดนของไทยทางภาคตะวันออกและภาคอีสาน กำลังมีกรณีพิพาทกับอาณานิคมอินโดจีนของฝรั่งเศส อีกทั้งทางภาคใต้ทวีปยุโรปกำลังเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 แม้ว่าตอนนั้นสงครามจะยังไม่แผ่เข้ามายังประเทศไทยที...แต่เค้าลางสงครามก็เริ่มก่อตัวอึมครึมขึ้นมาแล้วเนื่องจากประเทศญี่ปุ่นกำลังแผ่นแสนยานุภาพไปทั่วทวีปเอเชีย ประชาชนคนไทยพากันตื่นตระหนักไปกับภัยของสงครามกัน...ด้วยเหตุนี้พ่อท่านเส้งจึงได้จัดสร้างพระปิดตาเพื่อเป็นวัตถุมงคลไว้คุ้มครองป้องกันอันตรายแก่ทหาร ตำรวจ อาสาสมัครและชาวบ้าน..
พระปิดตาวัดแหลมทรายรุ่นแรกมีการสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2482 พ่อท่านเส้งท่านเรียกพระปิดตาของท่านว่า พระโสฬสมงคล เนื่องจากว่าเนื้อโลหะที่นำมาสร้างพระปิดตานั้น เนื้อหลักได้มาจากโลหะยอดพระเจดีย์ โลหะยอดพระปรางค์ โลหะยอดพระอุโบสถ โลหะยอดพระวิหาร โลหะยอดสถูป ฯลฯ รวมแล้วได้ 16 ยอด เท่ากับจำนวนโสฬสพอดี แล้วก็ยังมีโลหะศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ รวมอยู่เป็นจำนวนมากอีกด้วย....พิธีการสร้างจัดได้ศักดิ์สิทธิ์ถูกต้องตามตำราโบราณทุกขั้นตอน ขณะที่ทำพิธีเททองนั้น...เนื้อโลหะที่หลอมเหลวอยู่ในเบ้าได้กระเด็นไปถูกร่างกายของผู้ที่ร่วมในพิธีหลายครั้งด้วยกัน แต่ปรากฏว่าไม่มีใครได้รับอันตรายแม้แต่น้อย...โดยเฉพาะในตอนทำพิธีปลุกเสกพ่อท่านเส้งได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ผู้แก่กล้าทางวิทยาคมของภาคใต้หลายท่านด้วยกันมาร่วมปลุกเสก...ขณะที่พิธีปลุกเสกกำลังดำเนินไปอยู่นั้นได้มีฝูงผึ้งจำนวนมากบินมาเกาะในบริเวณพิธีเต็มไปหมด ผึ้งบางกลุ่มก็ไปจับเกาะตามตัวของพระเกจิอาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสกในพิธีจนดำพรืดไปทั้งตัว...แต่ผึ้งนั้นก็ไม่ได้ทำร้ายใครแม้แต่สักคนเดียวเป็นอย่างนี้หลายวันตลอดจนพิธีปลุกเสกเสร็จสิ้นฝูงผึ้งนั้นก็บินหายไปหมด....ลักษณะของพระปิดตาวัดแหลมทราย"รุ่นแรก"เป็นพระปิดตาองค์ขนาดเล็กสูงแค่ 1 ซม. กว่าๆ ด้านหน้าเป็นรูปพระมหาอุตม์มีมือยกขึ้นปิดหน้าคู่หนึ่ง อีกคู่หนึ่งล้วงลงปิดทวารเบื้องล่าง ด้านหลังไม่ปรากฏอักขระใดๆ เนื้อโลหะออกเป็นทองผสม วรรณะออกเหลืองอมขาว พระปิดตาวัดแหลมทรายรุ่นแรกนี้ได้มีประสบการณ์เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หลายต่อหลายครั้งด้วยกัน จึงทำให้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันกว้างขวางนับแต่นั้นมา และได้รับความนิยมกันมากมาจนทุกวันนี้...ด้านราคาในการเล่นหาก็มีถึงหลักพันแก่ๆจนถึงหมื่นกว่าๆ...แต่พระปิดตาวัดแหลมทราย "รุ่นแรก"นี้ของเก๊เฉียบเข้าไส้จริงๆครับ..หลังจากที่สร้างพระปิดตารุ่นแรกไปแล้ว 22 ปี พ่อท่านเส้ง ก็ได้สร้างพระปิดตาขึ้นอีกครั้งหนึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2504 ซึ่งการสร้างพระปิดตาวัดแหลมทราย"รุ่น 2 "นี้ ก็มีการจัดพิธีการสร้างเหมือนรุ่นแรกทุกอย่างนอกจากนี้ยังมีชนวนโลหะศักดิ์สิทธิ์ที่เหลือจากการสร้างพระปิดตารุ่นแรกซึ่งพ่อท่านเส้งได้นำมาผสมกับชนวนโลหะศักดิ์สิทธิ์อื่นๆที่ท่านหามาเพิ่มเติมอีกด้วย และได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์เก่งๆ ของภาคใต้มาร่วมปลุกเสกเช่นกัน..
ลักษณะของพระปิดตาวัดแหลมทรายรุ่น 2 เป็นปิดตาองค์ขนาดเล็กสูง 1 ซม.กว่าๆ ด้านหน้าเป็นมหาอุตม์มือคู่หนึ่งยกขึ้นปิดหน้าอีกคู่หนึ่งล้วงลงปิดทวารเบื้องล่างเหมือนรุ่นแรก แต่พระปิดตารุ่น 2 พิมพ์และรายละเอียดจะมีความลึกคมชัดกว่ารุ่นแรกและมีการตัดขอบด้านข้างจึงดูเหมือนแบบพระปิดตาลอยองค์ส่วนด้านหลังเป็นอักขระขอมตัว ยะ เป็นร่องลึก เนื้อโลหะออกเป็นทองผสม วรรณะออก เหลือง อมเขียว |