หน้าร้าน  :  Gallery สินค้า  :  ข่าวสารจากร้านค้า  :  วิธีการชำระเงิน  :  ติดต่อร้าน  :  บทความ
ภูภู95พระเครื่อง
ลำดับที่เยี่ยมชม

Online: 77 คน
ยินดีต้อนรับ เข้าสู่ : ภูภู95พระเครื่อง

รายละเอียดร้านค้า

ชื่อร้านค้า ภูภู95พระเครื่อง
ชื่อเจ้าของ ภูดิศ นนทพิมลชัย (ภูภู 95)
รายละเอียด ศึกษาสะสมและแลกเปลี่ยนความรู้
เงื่อนไขการรับประกัน ศึกษาสะสมและแลกเปลี่ยนความรู้
ที่อยู่ เมืองนนทบุรี
เบอร์ที่ติดต่อ -
E-mail poopoo9595@hotmail.com
วันที่เปิดร้าน 12-02-2555 วันหมดอายุ 06-02-2569

ท่านสามารถชำระเงิน ผ่านทางธนาคาร อีแบงค์กิ้ง หรือ ตู้ ATM ตามบัญชี ด้านล่าง

โลโก้
ธนาคาร
สาขา
ชื่อบัญชี
เลขที่บัญชี
ประเภทบัญชี

วัตถุมงคล: พระหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อยุธยา
พระหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค พิมพ์ขี่ไก่หางรวม นิยม
07-09-2558 เข้าชม : 12157 ครั้ง

[ ชื่อพระ ] พระหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค พิมพ์ขี่ไก่หางรวม นิยม
[ รายละเอียด ] พระ ครูวิหารกิจจานุการ หรือ หลวงพ่อปาน โสนันโท นั้น ท่านเป็นอดีตเจ้าอาวาส วัดบางนมโค รูปที่ ๓ เดิมเกิดในสกุล สุทธาวงศ์ โยมบิดาชื่อ อาจ โยมมารดาชื่อ อิ่ม ถือกำเนิดในวันศุกร์ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๘ ตรงกับวันที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๑๘ ที่บ้านบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ วัดบางปลาหมอ เมื่อวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๓๘ ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๕ ปีมะแม โดยมี หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ อ.บางบาล เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อจ้อย วัดบ้านแพน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์อุ่ม วัดสุธาโภชน์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาในเพศบรรพชิตว่า “โสนันโท” หลวงพ่อปาน ได้เล่าเรียนพระปริยัติธรรมตลอดพุทธาคมต่างๆ จากพระอุปัชฌาย์ คือ หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ ก่อนที่จะฝากตัวในสำนัก หลวงพ่อเนียม วัดน้อย จ.สุพรรณบุรี และเป็นสหธรรมิก ร่วมสำนักกับ หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน (วัดใหม่อัมพวา) จ.สุพรรณบุรี
    นอกจาก นี้ ท่านยังได้ศึกษาพระปริยัติธรรม ตลอดจนภาษาบาลีสำเร็จแตกฉานในสำนัก อาจารย์จีน วัดเจ้าเจ็ด อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา และ สำนักวัดสระเกศ กรุงเทพมหานคร หลังจากนั้น หลวงพ่อปานได้มาตั้งสำนักธรรมขึ้นที่ วัดบางนมโค พร้อมกับเริ่มการบูรณปฏิสังขรณ์วัดจนเจริญรุ่งเรือง วัดบางนมโค เป็นวัดเก่าแก่โบราณ ไม่ปรากฏหลักฐานว่า สร้างขึ้นในสมัยใด ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน้อย แต่เดิมบริเวณนี้ชาวบ้านเลี้ยงวัวเป็นจำนวนมาก จึงเรียกกันว่า “บางนมโค” ในคราวที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน เสด็จฯ วัดบางนมโค เป็นการส่วนพระองค์ เมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๗ มีพระราชดำรัสว่า “บางนมโค” มีความหมายอย่างไร พระครูวิหารกิจจานุยุต (อุไร กิตติสาโร) เจ้าอาวาสได้ถวายพระพรว่า ก่อนสร้างวัด ท้องทุ่งแถบนี้มีวัวควายอยู่มาก เมื่อ พ.ศ.๒๓๑๐ พม่ามาตั้งค่ายอยู่ห่างจากวัดประมาณ ๓ กิโลเมตร ในสมัยก่อนเรียกว่า “วักนมโค” ต่อมาเปลี่ยนเป็น “วัดบางนมโค” ในสมัยหลวงพ่อปาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสว่า หลวงพ่อปานเก่งมาก ศักดิ์สิทธิ์มาก ได้ทำประโยชน์ไว้มาก เช่น การก่อสร้างศาสนสถานแข็งแรงสวยงามทั้งนั้น ฯลฯ ท่านเจ้าอาวาสได้ ถวายพระพรว่า "หลวงพ่อปาน"มีราชทินนามว่า “พระครูวิหารกิจจานุภาพ” ผู้ปรารถนาภูมิคงแก่เรียนมาก ส่งเสริมการศึกษา การปฏิบัติ นำการก่อสร้างมาสู่ท้องถิ่นใกล้และไกล มีประโยชน์มาก และมั่นคง ฯลฯ
    วัตถุ มงคลหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เป็นที่เสาะแสวงหาของศรัทธาสาธุชนโดยทั่วไป คือ พระพิมพ์เนื้อดิน รูปสี่เหลี่ยมมุมตัด เป็นรูปองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงประทับนั่งบนบัลลังก์บัวตุ่ม เหนือสรรพสัตว์ประเภทต่างๆ เช่น ไก่ ครุฑ หนุมาน นก เม่น ปลา

    พระ พิมพ์ที่จัดสร้างขึ้นในระยะแรก พระหลวงพ่อปานเรียกกันว่า “พิมพ์โบราณ” ส่วน “พิมพ์มาตรฐาน” นั้นนำออกแจกจ่ายในพ.ศ. ๒๔๖๐ ซึ่งได้รับความนิยมเสาะแสวงหา ด้วยปรากฏความศักดิ์สิทธิ์ทางด้านรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ความแคล้วคลาดจากภยันตราย ตลอดจนความเป็นสิริมงคล สมปรารถนาแก่ผู้อธิษฐานติดตัว นอกจากนี้ สิ่งหนึ่งที่เพิ่มความขลังประสิทธิ์ให้แก่พระจนโด่งดังนั้น ต้องลองพิจารณาด้านข้าง จะเห็นความหนาขององค์พระมากกว่าพระพิมพ์ทั่วไป เพราะขอบ"พระหลวงพ่อปาน"ด้านบนตรงกลางได้มีการบรรจุ ผงพุทธคุณ ตามตำราว่าเป็นผงเกราะเพชรพระพุทธเจ้า อุดปิดไว้ ส่วนด้านหน้าขององค์พระ ปรากฏรูปพระพุทธปฏิมาประทับนั่ง ปางสมาธิ มีอักขระเลขยันต์ล้อมอยู่เหนือพระเศียร อ่านว่า มะ อะ อุ อุ องค์พระประทับนั่งอยู่เหนือรูปสัตว์มงคลนิมิต ๖ ชนิด ได้แก่ ไก่ ครุฑ หนุมาน เม่น ปลา นก ในพิมพ์หลักเหล่านี้ ยังแยกเป็นพิมพ์ย่อยตามลักษณะรูปสัตว์แต่ละชนิดอีกไม่น้อยกว่า ๕ แบบพิมพ์ หากท่านมีความสนใจจะหาพระเครื่องไว้ใช้สำหรับบูชาติดตัว เพื่อพึ่งพุทธคุณพระหลวงพ่อปาน จะเป็นพิมพ์ไหนใช้ได้เหมือนกันหมด ขอให้เป็น พระแท้ ก็แล้วกัน กำลังทรัพย์กับความรู้สึกเป็นเครื่องตัดสิน แต่หากจะเล่นหาสะสม เพื่อหวังผลกำไร ก็ต้องเน้นที่พิมพ์นิยมหลักๆ อาทิ แพงสุดก็คือ พิมพ์ไก่หางพวง ซื้อที่หลักหมื่นปลายๆ ถึงหลักแสนต้นๆ ในองค์ที่มีความสวยสมบูรณ์จริงๆคาถาหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคส่วนพิมพ์ที่จัดได้ว่า ราคาย่อมเยาที่สุด คือ พิมพ์ทรงนก องค์พระมีขนาดเล็ก จำนวนพระมีมากกว่าทุกพิมพ์ หาง่าย พบเห็นกันบ่อยที่สุด
    อุปเท่ห์ การใช้พระเครื่องหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค และ พุทธคุณพระเครื่องหลวงปู่ปาน ตามความเชื่อที่สืบทอดกันมา แต่ละพิมพ์ทรงมีคติความเชื่อดังนี้
    ๑.พระ หลวงพ่อปาน พิมพ์ทรงไก่ มีดีทางการทำมาค้าขาย และเมตตามหานิยม โดยคนโบราณสังเกตจากพฤติกรรมของไก่มาประกอบเปรียบเทียบ ไก่ฝูงหนึ่งมักมีตัวผู้เป็นจ่าฝูงเพียงตัวเดียว แต่มีตัวเมียล้อมรอบนับสิบ
    ๒.หลวงพ่อปาน พิมพ์ทรงครุฑ มีดีทางอำนาจราชศักดิ์ เหมาะสำหรับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ หรือนักบริหารระดับสูง
    ๓.หลวงปู่ปาน พิมพ์หนุมาน ดีทางด้านการปกครอง แคล้วคลาด คงกระพัน เหมาะสำหรับข้าราชการตำรวจ ทหาร
    ๔.พระหลวงปู่ปาน พิมพ์ทรงเม่น ดีทางเกษตรกรรม ทำสวน ทำนา หรือนักค้าที่ดิน
    ๕.หลวงพ่อปาน พิมพ์ทรงปลา โบราณว่า ค้าขายทางน้ำ ช่วยได้จริง
    ๖.หลวง ปู่ปาน พิมพ์นก เสริมความสำเร็จให้คนมีอาชีพทางการสื่อสาร นักพูด นักแสดง นักกฎหมาย นักการทูต และพ่อค้าที่จำเป็นต้องเดินทางค้าขายอยู่เป็นนิจ
การสร้างพระของหลวงพ่อปาน
    ในปี พ.ศ.2446 นั้น หลวงพ่อปานดำริที่จะหาปัจจัยมาการดำเนินการปรับปรุงเสนาสนะภานในวัดบางนมโค และจะสร้างพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุแทนองค์เดิมที่ชำรุดทรุดโทรม แล้วท่านก็ได้พบชีปะขาวและท่านอาจารย์แสงดังกล่าวมาแล้วท่านตัดสินใจสร้าง พระเครื่องขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.2450 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากชาวบ้านอย่างเต็มที่ ผู้มีความรู้ทางช่างก็แกะแม่พิมพ์ถวาย บรรดาลูกศิษย์ก็ออกแสวงหาวัตถุมงคลต่างๆ มาให้ ทั้งว่านที่เป็นมงคลและมีสรรพคุณทางยา เกสรดอกไม้ที่เป็นมงคลนาม ดินขุยปูนา ตลอดจนพระพิมพ์โบราณที่ชำรุดแตกหัก เพื่อนำมาผสมเป็นเนื้อพระ พระพิมพ์ชุดนี้ศิลปะแม่พิมพ์ไม่สวยงามนักเนื่องจากเป็นช่างฝีมือชาวบ้าน เรียกกันว่า “พิมพ์โบราณ” สร้างเสร็จในปี พ.ศ.2451 จำนวนการสร้างไม่มากนัก ผู้มีไว้บูชาก็หวงแหน จึงหาดูได้ยากยิ่งนัก จะมีเล่นหากันอยู่ก็คือ “พิมพ์ขี่เม่น” (สมัยก่อนเรียก “พิมพ์ขี่หมู” เพราะตัวเม่นมองดูคล้ายหมูมากว่า) และ “พิมพ์ขี่ไก่” ซึ่งจะมีขนาดเล็กและบางกว่าพิมพ์มาตรฐานมาก การอุดผงจะอุดขอบพระด้านล่าง และเนื้อขององค์พระค่อนข่างแกร่ง
    ต่อมาจึงจัดหาช่างฝีมือดีมาแกะแม่พิมพ์ใหม่ศิลปะแม่พิมพ์จึงสวยงามขึ้นมาก เราเรียกกันว่า “พิมพ์นิยม” หรือ “พิมพ์มาตรฐาน” สร้างแจกในปี พ.ศ.2460 พร้อมมีสลากกำกับวิธีการใช้พระให้ด้วยนับเป็นที่นิยมอย่างมากในแวดวงนักนิยม สะสมพระเครื่องในปัจจุบัน สนนราคาเป็นหลักแสนทีเดียวของทำเทียนเลียนแบบก็เยอะ หาดูของแท้ๆ ยาก เช่นกันนอกจาก “พระหลวงพ่อปาน” ซึ่งเป็นพระพิมพ์เนื้อดินเผาแล้ว หลวงพ่อปานยังได้สร้างวัตถุมองคลอื่นๆ เพื่อแจกจ่ายแก่ลูกศิษย์ลูกหาและพุทธศาสนิกชนทั่วไปโดยไม่คิดมูลค่าอีกด้วย อาทิ ผ้ายันต์เกราะเพชร ลูกอม ตะกรุด และแหวนพระ
กรรมวิธีในการสร้างพระ
    หลวงพ่อปานท่านกล่าวว่า หัวใจสำคัญในการสร้างพระก็คือ “ผงวิเศษ” ที่บรรจุอยู่ในองค์พระการทำ “ผงวิเศษหัวใจสัตว์” จะกระทำในพระอุโบสถโดยนั่งสมาธิเขียนอักขระเลขยันต์หัวใจของสัตว์ต่างๆ ทั้ง 6 ชนิดที่หลวงพ่อปานเห็นมาในนิมิตแล้วลบผงวิเศษนี้ออกมา หัวใจนี้ท่านมิได้ถ่ายทอดให้กับผู้ใดเพราะถือเป็นวาสนาเฉพาะบุคคล มีหลวงพ่อปานเป็นคนแรกที่ทำได้และเป็นคนสุดท้ายไม่มีการสืบทอด การทำผงพระนี้ยากมากต้องมีสมาบัติ 8 รูป สัตว์ทั้ง 6 ชนิด คือ ไก่ ครุฑ หนุมาน ปลา เม่น และนก นั้น หากจะทำชนิดใดก็ต้องล็อกคาถาของสัตว์ชนิดนั้นมาทำผง เช่นจะทำพระขี่นก จะเอาผ้าขาวมาเสกให้เป็นนกแล้วกางปีกออก จะมีพระคาถาอยู่ในปีกแล้วล็อกพระคาถามาทำผง เมื่อได้ผงมาก็ต้องนั่งปลุกเสกในโบสถ์ อดข้าว 7 วัน 7 คืน ออกไปไหนไม่ได้เลยต้องเข้าสมาบัติตลอดขณะที่ปลุกเสกพระอยู่ในโบสถ์ จะมีการตั้งบาตรน้ำมนต์ไว้สี่มุม เวลาบริกรรมคาถาบรรดาคุณไสยต่างๆ ที่มีผู้กระทำมาในอากาศก็จะกระทบกับพระเวทย์ของหลวงพ่อปาน แล้วร่วงหล่นสู่บาตน้ำมนต์ มีเสียงดังอยู่ตลอดเวลา ถือเป็นการตัดไม้ข่มนามพวกคุณไสย ผงวิเศษนี้จึงสามารถป้องกันคุณไสยได้
    ผงวิเศษสูตรที่ 2 หลวงพ่อปานท่านใช้ “ผงวิเศษจากยันต์เกราะเพชร” โดยตั้งสมาธิเขียนยันต์บนกระดานชนวน แล้วชักยันต์ขึ้นแล้วลบผงมา ต้องใช้ความพยายามและความอดทนอย่างสูงเพราะต้องใช้เวลายาวนานมากกว่าจะลบผง ออกมาได้และต้องถูกต้องทุกขั้นตอนตามที่ตำราระบุไว้จึงจะมีความขลังและ ศักดิ์สิทธิ์
    ผงวิเศษสูตรสุดท้าย คือ “ผงวิเศษ 5 ประการ” ประกอบด้วย ผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงมหาราช ผงตรีนสิงเห และผงพระพุทธคุณ อันเป็นยอดของผงวิเศษที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) แห่งวัดระฆังฯ หลวงปู่ภู วัดอินทร์ และพระปิลันทน์ วัดระฆังฯ ใช้เป็นส่วนผสมในเนื้อมวลสารของพระเครื่องที่ท่านสร้าง อันทรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
    หลวงพ่อปานใช้เวลาทำอยู่ตลอดพรรษาจนมีจำนวนมากพอผงวิเศษที่ได้มาทั้งหมดนี้ นับเป็นผงที่มีพุทธคุณเอกอนันต์ใช้งานสารพัดอย่างเป็นเลิศเรียกว่าเป็น “กฤตยาคมแฝด” ที่พระพิมพ์อื่นๆ ไม่มีขั้นตอนการสร้างองค์พระหลวงพ่อปานจะนำดินขุยปูและดินนวลหรือดินเหนียว ในทุ่งนาที่ขุดลงไปค่อนข้างลึกเพื่อให้ได้เนื้อดินที่ละเอียดซึ่งชาวบ้านหา มาให้นั้น มากรองบดและนวด ให้เนื้อดินเหนียวและเนียน จากนั้นแบ่งออกเป็นก้อนเล็กๆ นำไปกดกับแม่พิมพ์พระที่เตรียมไว้วิธีการนำพระออกจากแม่พิมพ์ของหลวงพ่อปาน ก็แตกต่างจากพระคณาจารย์ท่านอื่น คือจะใช้ไม้ไผ่เหลาให้ปลายแหลมๆ แล้วเสียบที่ด้านบนเศียรพระงัดพระออกจากพิมพ์ ซึ่งจะเกิดเป็น “ร” เพื่อบรรจุ “ผงวิเศษ”
    ดังนั้นขนาดและรูปทรงของรูจะไม่มีมาตรฐานแน่นอน ใหญ่บ้างเล็กบ้าง ยาวบ้างสั้นบ้าง หรือเหลี่ยมบ้างกลมบ้าง แล้วหลวงพ่อก็จะนำพระที่กดพิมพ์เรียบร้อยไปบรรจุในบาตรจำนวนพอสมควร นำมาสุมด้วยแกลบจุดไฟเผาจนพระสุกแดงได้ที่จึงลาไปออก ปล่อยไว้ให้เย็นแล้วจึงนำมาบรรจุ “ผงวิเศษ” ลงในรูจนเต็ม ใช้ซีเมนต์ผสมปิดทับอีกทีหนึ่งเมื่อแห้งจะทนทานมาก บริเวณที่อุดนี้จะเป็นสีเทาของซีเมนต์ผสมกับสีขาวของผงวิเศษทุกองค์ อันเป็นเอกลักษณ์ประการหนึ่งพิธีปลุกเสกพระทำในพระอุโบสถ หลวงพ่อปานท่านจะตั้งบายศรีราชวัตรฉัตรธง หัวหมู ขนมต้มแดง ขนมต้มขาว เมื่อปลุกเสกครบไตรมาส
    หลวงพ่อจะย้ายกลับมาปลุกเสกที่กุฎิของท่านต่อทุกคืนจนถึงวันไหว้ครูประจำปี ของท่าน แล้วจะตั้งพิธีเหมือนเดิมอีกครั้งหนึ่ง ท่านกล่าวว่า “ต้องอาราธนาบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระปัจเจกะพุทธเจ้าทุก พระองค์ พระอริยสาวกทุกองค์ ตลอดจนพระพรหม เทวดา ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย การชุมนุมบวงสรวงเช่นนี้ประเดี๋ยวก็เสร็จไม่ต้องถึงสามเดือนอย่างที่แล้วมา จงจำไว้ว่าการจะปลุกเสกพระหรือผ้ายันต์อะไรก็ตาม ถ้าจะอาศัยอำนาจของเราอย่างเดียวไม่ช้าก็เสื่อม เราน่ะมันดีแคไหน การทำตัวเป็นคนเก่งน่ะมันใช้ไม่ได้ มันต้องให้พระท่านเก่ง พระพุทธท่านเก่ง พระธรรมท่านเก่ง พระสงฆ์ท่านเก่ง เทวดาท่านเก่ง พระพรหมท่านเก่ง ท่านมาช่วยทำประเดี๋ยวเดียวก็เสร็จดีกว่าเราทำตั้งพันปีเราต้องการให้ท่าน ช่วยอะไรก็บอกไป ของที่ทำจะคุ้มครองผู้คนทั้งบ้านทั้งเมืองได้ทุกคนถ้าหากพระก็ดี พระพรหมก็ดี เทวดาก็ดี ท่านช่วยคุ้มครองให้ ท่านก็มองเห็นถนัด คุ้มครองได้ถนัดและจำไว้อย่างหนึ่งว่า ถ้านำของนั้นไปใช้ในทางทุจริตคิดมิชอบก็ไม่มีอะไรจะคุ้มครองได้ ที่เป็นคนเลวอยู่แล้วก็ช่วยพยุงให้เลวน้อยหน่อย ต้องช่วยตัวเองด้วยไม่ใช่จะคอยพึ่งผ้ายันต์หรือพระ ถ้าดีอยู่แล้วก็ช่วยให้ดียิ่งขึ้น นี่เป็นกฎของอำนาจพระพุทธบารมี พระธรรมบารมี พระสังฆบารมี ตลอดจนพระพรหมและเทวดาทั้งหลาย
คาถาหลวงพ่อปาน
    คาถาปัจเจกโพธิ์
    (คาถาเสริมทรัพย์ )

    ใช้สวดภาวนาเวลาตื่นนอน ๓ จบ เวลาใส่บาตร ๑ จบ ก่อนนอน ๓ จบ หรือเวลาว่าง จะทำให้มีโภคทรัพย์มากมาย
    พระคาถาพระปัจเจกโพธิ์ ว่า ๓ จบ หรือ ๕ จบ หรือ ๗ จบ หรือ ๙ จบ ก็ได้ แต่ต้องสม่ำเสมอ จึงจะเกิดผล

ตั้งนะโม 3 จบ
    พุทธะ มะอะอุ นะโมพุทธายะ
    วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย
    พุทธัสสะ มาณีมามะ พุทธัสสะ สะวา โหม

[ ราคา ] ฿9
[ สถานะ ] โชว์พระ
[ติดต่อเจ้าของร้านภูภู95พระเครื่อง] เบอร์โทรศัพท์ : -


วัตถุมงคล: พระหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อยุธยา
พระวัดคู้สลอด อยุธยา พิมพ์พิเศษ 2หน้า(ด้านหนึ่งทรงครุฑอีกด้านหนึ่งทรงหนุมาน)
พระวัดคู้สลอด อยุธยา พิมพ์ไก่หางพวง
พระหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค พิมพ์นก
พระหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค พิมพ์ขี่ปลาโบราณ
พระหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค พิมพ์ขี่ไก่หางรวม นิยม

หน้าหลัก  ข่าวสารจากร้านค้า  วิธีการชำระเงิน  ติดต่อร้าน  บทความ  ผู้ดูแล
Copyright©2025 zoonphra.com/amulet
Powered by อ้น ระโนด